วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

เรื่องของหมี



การพรากจากกัน มีอยู่ 2 แบบ คือ จากตาย และ จากเป็น ฉันว่าการจากทั้งสองแบบนี้ ต่างก็ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่ ฉันเอง ก็เคยมีประสบการณ์ผ่านเรื่องร้ายๆ แบบนี้มาแล้ว ประการแรก การจากที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต คือการจากไปของพ่อผู้เป็นที่รัก พ่อเป็นทุกอย่างของฉัน แต่ก็คงถึงเวลาของพ่อ และฉันก็พยายามสร้างความเข้าใจให้ตัวเองว่า การจากตายนั้น เป็นธรรมชาติที่เราทุกคนจะต้องพบเจอ และจำเป็นจะต้องยอมรับความจริงให้ได้ แม้ว่าะลำบากยากเย็นแค่ไหนก็ตาม ขณะนี้ ฉันคิดเสมอว่า พ่อไม่ได้จากไปไหน พ่อแค่ย้ายที่อยู่จากบ้าน เข้ามาอยู่ในหัวใจของฉันเท่านั้น พ่อยังมีชีวิตอยู่ในหัวใจของฉัน พ่อติดตามฉันไปทุกหนทุกแห่ง เมื่อยามใดที่ลูกท้อ พ่อจะคอยให้กำลังใจให้ลูกคนนี้สู้ต่อไป
การจากแบบที่สองที่เรียกว่า จากเป็น ก็ถือว่าเจ็บปวดไม่แพ้กัน การจากเป็น ที่ฉันรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าการจากกันของความรักแบบหนุ่มสาวเสียอีก ก็คือ การจากไปของหมาคู่ทุกข์คู่ยากของฉัน







หมี คือชื่อของเขา ฉันรักเขามาก นับตั้งแต่วันที่เราได้พบกันครั้งแรก หมี ซึ่งดูไปแล้ว เหมือนหมีจริงๆ ดังนั้น ไม่มีชื่อใดเหมาะสมกับเขาอีกแล้วนอกจากชื่อ หมี ตอนที่หมีเกิดใหม่ๆ ฉันมุดเข้าไปใต้อาคารสำนักงานเพื่อไปเล่นกับหมีและพี่น้องของหมี หมีมีราศีเปล่งปลั่งกว่าใครเพราะหมีอ้วน ตุ้ยนุ้ยกว่าพี่น้องทุกคน คงเพราะหมีเป็นเจ้าถิ่น หมีเปรี้ยวและซ่าห์ตั้งแต่เด็ก เลยไม่มีใครกล้ามาหือกับหมี หมีเลยอ้วนเอาอ้วนเอา ตอนที่ฉันอุ้มหมีครั้งแรก ฉันแอบพาหมีขึ้นมาเล่นบนออฟฟิศ มันนอนซบอยู่กับไหล่ฉัน หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข หมีคงอยากจะฝากเนื้อฝากตัว แล้วฉันก็ใจอ่อน หาริบบิ้นไปผูกคอหมีทำเครื่องหมายว่า “ป๊อบจอง” เนื่องจากได้ข่าวมาว่า ยามที่ทำงานฉัน มีแผนจะนำหมีไปเป็นอาหารจานโด๊ป ไม่ได้การเสียแล้ว ฉันจึงพาหมีเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวแม่ล่วงหน้า
ก่อนพากลับบ้าน ฉันนำหมีไปอาบน้ำที่ร้านอาบน้ำสัตว์ คนอาบน้ำ ท่าทางจะเป็นคนงานต่างด้าว เขาลงมืออาบน้ำให้หมีอย่างรุนแรง เนื่องจากว่าตอนนั้น หมีสกปรกและมีสะเก็ดแผลหรือรอยกัดของหมัดจากตัวของแม่หมีและพี่น้องของหมีรุมกัด หมีร้องโวยวายเสียงดัง หมีอยู่ในสภาพที่ตกใจอย่างที่สุด จนฉันสงสาร พออาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หมีตัวสั่น นอนอยู่บนตักฉันตลอดทางที่ขับรถกลับบ้าน ฉันปลอบหมีไปตลอดทาง
ฉันคิดว่าจากเหตุการณ์วันนั้น ทำให้หมีช็อค เพราะได้เจอกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตทารกหมาของหมี และเมื่อหมีโตขึ้น หมีก็เลยเป็นคุณสุนัขที่ค่อนข้างพิเศษกว่าคนอื่น เพราะหมีดุเกินสุนัขธรรมดา
ฉันคิดว่า ฉันก็มีส่วนผิดด้วย ที่เลี้ยงหมีมาอย่างผิดพลาด จากการที่เพิ่งจะสูญเสียพ่อและแมวอันเป็นที่รัก ฉันจึงทุ่มเทความรักทั้งหมดให้ลูกหมาสีดำจอมซนตัวนี้ ฉันมอบตำแหน่งให้หมีเป็นน้องชายของฉัน ฉันไม่เคยดุ ไม่เคยกำราบ ไม่เคยตี บางครั้ง ฉันพูดกับหมีเพราะยิ่งกว่าพูดกับคนบางคนเสียอีก น่าตลกจัง ฉันดูเป็นคนนิสัยเสียไม่น้อย 555
ดังนั้น หมีคงคิดว่า หมีเป็นพี่ชายฉันและหน้าที่ของเขาคือปกป้องคุ้มครองฉันและคุณยาย ซึ่งคือแม่ของฉัน ถ้ามีใครบางคนที่หมีไม่ชอบหน้า โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบสุนัข ซึ่งตามตำรา บอกไว้ว่าจะมีฮอร์โมนเกลียดสุนัขอยู่ในตัว พวกเขา ซึ่งอาศัยอยู่รั้วบ้านเดียวกันแท้ๆ หากว่าได้เดินผ่านเข้าอาณาเขตบ้านฉัน หมีจะเห่าเสียงดัง ขู่ไม่เลิก หากไม่ผูกไว้ หมีอาจพุ่งเข้าไปกัดได้ แต่น่าแปลก ที่หมี กลับชอบเด็กนักเรียนผู้หญิงที่มาเรียนพิเศษที่บ้าน หมีจะเปลี่ยนไปเป็นหมาคนละคน หมีจะกระดี๊กระด๊า กระดิกหาง อ้อนสาวน้อยๆ เหล่านี้ หมีของฉัน เจ้าชู้น่าดู เวลาสอน หมีจะนอนหมอบอยู่ใต้โต๊ะเรียน คอยฟังฉันสอนนักเรียนทุกครั้ง หมีไม่เคยทำอะไรเด็กๆ เลย

เวลาฉันอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน หมีจะคอยตามไปทุกที่ ที่ไหนมีฉัน ที่นั่นต้องมีหมี เมื่อฉันออกจากบ้านไปทำงาน เราจะร่ำลากันอย่างยืดยาว แล้วตอนเย็น เมื่อใกล้เวลาฉันจะกลับ หมีจะต้องมายืนคอยฉันที่หน้าต่างเหมือนในรูปนี้เป็นประจำทุกวัน
บางทีหมีคงคิดว่า หมีเป็นคน เป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้าน
แต่เรื่องเศร้าเกิดขึ้นเมื่อหมีไปกัดน้าของฉันเข้า ครั้งแรก หมีกัดน้าคนโต ตอนนั้น น้าคิดจะนำหมีไปให้เทศบาล โชคดีที่พี่เลี้ยงของฉันรีบโทรไปบอกที่ทำงาน ฉันถึงกับลางานกะทันหันออกมาเดี๋ยวนั้น เพื่อมาช่วยหมี และหลังจากนั้น ฉันก็พาหมีออกมาผจญภัยข้างนอก เรามาหาบ้านเช่ากัน แต่การหาบ้านเช่า ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ภายในวันเดียว และฉันก็ทำให้แม่เป็นห่วงไม่น้อย คืนนั้น ฉันนำหมีไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์ หมีต้องนอนในกรงเล็กๆ และคงเครียดน่าดู และพอฉันได้รับข่าวจากที่บ้านว่า ทุกคนให้อภัยแล้ว ให้พาหมีกลับมาบ้านได้ เช้าวันรุ่งขึ้น เราไปรับหมีออกมาจากโรงพยาบาล หมีดีใจร้องเอะอะเสียงดังเหมือนจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเขาเจออะไรมาบ้าง ฉันก็ดีใจไม่แพ้หมีเหมือนกัน เพียงแต่ฉันไม่โวยวายเหมือนหมีเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของฉันกับน้าคนที่ถูกหมีกัด ก็หยุดชะงักไประยะหนึ่ง เพราะเขาคิดว่าฉันรักหมีมากกว่าเขา ซึ่งเป็นคน เป็นน้าแท้ๆ แต่ฉันกลับเลือกหมามากกว่าเขา อันที่จริงฉันก็รักเขาเช่นกัน แต่การที่เขาทำโดยพลการ จะพาหมีไปไหนก็ไม่รู้ ฉันก็ยอมไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น ฉันกับหมี จึงเลือกที่จะไป ไม่ดีกว่าหรือ
จากนั้นผ่านไปอีกปีกว่าๆ เราคิดว่าคงจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว หมีเอง ก็เคยกัดฉันเป็นแผลลึกหลายครั้ง แต่น่าแปลกที่ฉันไม่เคยโกรธหมีสักนิด คงเพราะฉันรักหมี ถ้าคนที่เรารัก ทำอะไรให้เราเจ็บ แล้วเราสามารถอภัยให้เขาได้ นั่นคือ ความรักที่แท้จริง ฉันเข้าใจความหมายของความรักจากหมาที่ชื่อหมีตัวนี้ น่าประหลาด ที่ความรักจากคน ยังไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้เลย
แล้ววันที่เศร้าและเลวร้ายอีกวันในชีวิตก็มาถึง วันนั้น หมีกระโจนเข้าไปกัดน้าคนเล็ก เนื่องจากหมีคิดจะปกป้องคุณยายของเขา ซึ่งก็คือแม่ของฉันเอง น้าเดินเข้าบ้านมาด้วยเสียงอันดัง เพื่อจะถามแม่ค้าที่มาขายของที่บ้านว่ามีอะไรขายบ้างวันนี้ หมีคงตกใจ นึกว่าน้าจะมาทำอะไรแม่ เลยกระโจนเข้าใส่น้า ขนาดฉันวิ่งเข้าไปห้าม แล้ว แต่คราวนี้ น้าโดนหมีกัดเป็นแผลใหญ่หลายที่ ฉันถึงกับต้องพาไปโรงพยาบาล น้าถูกเย็บหลายเข็ม น้าร้องไห้ และบอกฉันว่า คราวนี้ น้าขอให้นำหมีไปอยู่ที่อื่นเถิด เพราะไม่อยากให้พี่น้องผิดใจกัน ถึงตอนนี้ ฉันเถียงไม่ออกจริงๆ และทำอะไรไม่ถูก นอกจากเงียบ ยอมรับความผิดที่น้องชายตัวเองก่อขึ้นโดยไม่ตั้งใจ อีกสาเหตุหนึ่ง น้าคนนี้ มีบุญคุณกับครอบครัวของฉันมาอย่างต่อเนื่อง ฉันคงปฏิเสธคำขอร้องของเขาไม่ได้จริงๆ
ในที่สุด หมีกับฉัน ก็ต้องแยกจากกัน ฉันร้องไห้ทุกวัน ทุกคืน ฉันมีอาการเศร้าสร้อยอยู่หลายเดือน จนกระทั่งบัดนี้ หมียังอยู่ในจิตใจของฉันเสมอ เมื่อผ่านมาไม่นาน ฉันเพิ่งได้ข่าวของหมี ตอนนี้หมีมีเจ้าของใหม่แล้ว หมีอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี ฉันคิดว่าหมีคงมีความสุขกว่าตอนที่อยู่กับฉัน เพราะหมีอยู่ในที่ๆ เป็นธรรมชาติ หมีไม่ได้ถูกขังให้อยู่แต่ในบ้านเหมือนเมื่อก่อน แต่หมีก็ยังดุเหมือนเดิม ไม่มีใครสัมผัสมันได้นอกจากเจ้าของๆ มัน
ใจจริง ฉันอยากไปเยี่ยมหมีมากๆ ฉันอยากไปเห็นหน้าหมี แต่ฉันสงสารหมีและในเวลาเดียวกันก็สงสารตัวเอง ถ้าฉันไป หมีคงคิดว่าฉันมารับเขากลับบ้านแล้ว ฉันไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง และฉันเอง ก็เศร้าใจไม่น้อย เพราะฉันก็ไม่สามารถนำเขามาอยู่กับฉันได้อีก ชีวิตเราต้องพรากจากกัน เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ อีกแล้ว ตั้งแต่หมีจากไป ทุกเช้า ฉันขอพรพระ ต่อหน้าพระพุทธรูปและรูปของพ่อ ให้ช่วยปกปักรักษาหมีให้ปลอดภัยและอยู่ดีมีสุข ฉันรู้สึกผิดต่อหมีมาตลอด เพราะหมีคงคิดว่าเขาทำผิดอะไร ถึงให้เขาออกไปจากบ้านหลังนี้ เขาคงคิดว่าฉันไม่รักเขาแล้ว และฉัน หายไปไหน?
โชคชะตาคงลิขิตให้เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพียงแค่นี้ แต่พี่ก็จะรักและคิดถึงหมีตลอดไปนะ เรื่องวันนี้เศร้านิดหน่อย พรุ่งนี้ตาบวมอีกแล้วตรู

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ป๊อปน่ะ หนูเชื่อว่าหากเราคิดดีทำดี ทุกอย่างจะต้องดี บางอย่าง บางเรื่อง ถ้าหากมันเป็นความทรงจำที่ดี มันก็มีความสุขมากกว่าต้องทุกข์ใจน่ะค่ะ
น้องวรรณ

POPEYE กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจ้า เรื่องของหมี คือความทรงจำที่ดีจริงๆ นะ ขอบคุณที่เตือนให้นึกถึงจ๊ะ