วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บางครั้งในชีวิต
ก็มีสิ่งที่ไม่อยากให้มันเกิด
เรียกกันให้เข้าใจง่ายๆ คือ ความผิดหวัง

ความผิดหวัง สมหวัง ล้วนเป็นธรรมดาของโลก
อย่ามาคิดเลยว่า ทำไมเรื่องนั้น เรื่องนี้ ถึงได้เกิดขึ้น...ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้
มาคิดดีกว่าว่า จะแก้ปัญหานั้นอย่างไร จะรับกับความไม่พึงปรารถนา หรือเจ้าความผิดหวังนี้ได้อย่างไร
ข้อแรก ... ยอมรับว่า นี่คือกฏธรรมชาติของโลก
ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง ไม่เที่ยง ทุกสิ่ง ทุกผู้ ทุกคน ที่อยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้
ต่างก็เปลี่ยนแปลง ไปตามสภาวะ เวลา สิ่งแวดล้อม... และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่ายึดติด ว่าเขาจะเป็นเหมือนกับเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน... อย่าคาดหวัง...อย่า..อย่า...และหลายอย่า ...อีกมากมาย

เป็นยังไงก็เป็นกัน

วันนี้อดไม่ไหวแล้ว ขอโวยวายๆๆๆ
อดทนมานาน ได้สิบวันเต็มๆ พอดี...
คราวนี้ ฝีมือดีขึ้นนะ เพราะไม่ร้องไห้สักแอะ... การสวดมนต์ก่อนนอนช่วยได้มาก
อดทนไม่ไหว เลยระเบิดไปสักที
ระเบิดออกไปแล้วก็โล่งใจนะ และยอมรับว่า อะไรๆ ที่เกิดขึ้นตามมา อาจไม่สวยหรูอย่างที่ใจอยากให้เป็น
หลังจากครั้งนี้
อาจไม่ได้คุยกันอีก
หรือหลังจากครั้งนี้
จะเข้าใจกันมากขึ้น
ช่างเถอะ อย่าไปคิดเลย...ว่าอะไรรออยู่ตรงหน้า
แค่ขอให้ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นผลจากการกระทำของตัวเองในวันนี้

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป

ขออนุญาตนำบทความของ ว.วชิรเมธี มาเผยแพร่ดังนี้

สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
เมื่อคุณชี้แจงไปแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง
แต่เมื่อเขาไม่ฟัง และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว
ก็คงต้อง “ปล่อยมันไป”

ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน
หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป

เพราะหากเรามัว แต่จะ “นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา”
เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
(มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)

ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้
เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ปล่อยมันไป”

เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ

เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้
ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า
พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด

อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์
แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

If I believe in love , can I believe in you

Love makes me hurt
Love makes me cry
Love , anyway I will try

Love make people blind , I know so well
But I still love..you.

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มุมมองดีๆ เกี่ยวกับความรัก

การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักตอบ
อย่าหวังที่จะได้รับตอบ
แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา
แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ก็ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเรา

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หัวใจสลาย

ของขวัญวันเกิดปีนี้ คือคำพูดที่บอกว่า ดูแลเราไม่ได้...
ไม่เห็นต้องพูดแบบนี้เลย ไม่ได้อยากให้มาดูแลสักกะหน่อย....
ความรัก ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยการได้อยู่ดูแลกันหรอก....
การดูแลกัน ทำได้หลายรูปแบบ....

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Just believe in someone you love

แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
อยากจะบอกตัวเองว่า จงรอเขาอย่างอดทน
นี่อาจเป็นอีกบทเรียนหนึ่ง ของความรัก
การปรับตัว...การฝึกตน ให้อดทนมากขึ้น เพื่อคนที่เรารัก
เอาน่า..เขาไม่เคยทำให้เราเสียใจ...เขาแค่อาจต้องการเวลาคิดเรื่องนี้นิดนึง
ตามปกติ เขาก็เป็นคนช้าอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ เราต่างหาก ที่เร็วเกินไป โรคประจำตัว แก้ไม่หาย คือ อยากจะรู้อะไรเดี๋ยวนั้น ใจร้อน...
เราต้องนิ่งน่ะ อย่าใจร้อน

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำใจดีๆ ไว้


ต้องทำใจน่ะ อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องปลง
คำตอบที่ได้รับอาจจะน่าพอใจหรือไม่ก็ได้ เราไม่มีทางหยั่งรู้ จนกว่าจะได้ยินคำตอบนั้นออกมาจากปากของเขา
หากคิดไปก่อนว่าคำตอบที่ได้นั้นจะเป็นอย่างไร
ส่วนใหญ่มักจะคิดไปในแง่ลบไว้ก่อน ก็ยิ่งเท่ากับเป็นการบั่นทอนตัวเอง
ทำใจให้นิ่ง หาอะไรทำให้ยุ่งๆ เข้าไว้
พยายามอย่าให้เขามามีอิทธิพลเหนือชีวิตของเรา (แต่อันนี้ทำยากมาก ขอบอก)
ให้คิดไว้ว่า ก่อนหน้าที่จะมาเจอเขา เราก็ยังอยู่ได้อย่างดี ให้คิดถึงจุดนั้นให้มากๆ
ความผิดหวังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา
ดังนั้น จงตั้งใจมั่น รอรับฟังคำตอบ
คำตอบนั้นจะดีหรือจะร้ายอย่างไร มันก็คือคำตอบอยู่วันยังค่ำ
อย่างน้อย มันก็ทำให้เราโล่งใจที่ได้รู้คำตอบนั้นเสียที

ปีนี้จะได้ของขวัญวันเกิดไหมนะ

วันนี้แต่มีแต่เรื่องวุ่นวายใจ
เริ่มจากตอนเช้า ทนไม่ได้ที่เห็นคนใส่หน้ากากเข้าหากัน อารมณ์เสีย....
คนเราลืมได้ไวขนาดนั้นเลยเหรอ...
ก็เพราะเป็นแบบนี้ไง เราถึงไม่ได้ใหญ่ไปกว่านี้แล้วน่ะ 555 แต่ช่างเหอะ ไม่ทะเยอทะยานแล้วผิดตรงไหนล่ะ

หัวเสียเรื่องประชุม เรื่องลูกน้อง เลยทำให้พาลไปหมด...พาลทุกอย่าง แม้แต่กับ เขา...งอน แต่พอเขาคุยด้วย ก็หาย...

อีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดแล้วสินะ.... อยากอยู่กับคนที่รัก...แค่กินข้าวมื้อเดียวก็ได้
ใจจริงแล้ว อยากชวนไปทะเล ไปรำลึกความหลัง....กี่ปีมาแล้วล่ะ...
แต่ไม่อยากหวัง...เพราะกลัวว่าจะผิดหวัง....
ถ้าถามไปแล้ว จะได้คำตอบว่าอย่างไรนะ
สับสน วุ่นวาย กังวล...

ไม่น่ามีวันเกิด มาเป็นเงื่อนไขให้ชีวิตเลย
ก็เพราะเขาสำคัญกับเรามาก ถึงได้เป็นแบบนี้ไงล่ะ

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความรักของฉันเดินทางมามากกว่าหมื่นกิโลเมตร



และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องพา "ใหม่เสมอ" รถใหม่คู่ใจ เข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะหมื่นกิโลเมตร
เผลอแป๊บเดียว เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...

รถคันนี้ วิ่งมาแล้ว หมื่นกิโลกว่าๆ แต่ความรักของฉัน ยั่งยืน ยาวนานกว่านั้นมากนัก...

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ใครนะ ใจร้ายทำหนูดีได้ลงคอ


เมื่อคืนมีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นอีกแล้ว
ช่วงนี้เป็นอะไรนะ มีเหตุกับแมวๆ ในบ้านบ่อยมาก อาทิตย์ก่อน ก็เริ่มด้วยสีทองมากัดพี่ป๊อบเสียจนนิ้วเหวอะ ต้องให้หมอคว้าน
เมื่อวานแผลเพิ่งจะดีมาบ้าง เจอเหตุการณ์ร้ายๆ กับหนูดีอีก
กลับมาถึงบ้านตอนเย็น ก็เอะใจนิดๆ ว่าทำไมวันนี้สายตาหนูดีที่มองเรามันแปลกๆ นะ นั่นคงโดนฉมวกยิงเข้าตั้งแต่เย็นแล้ว แต่ไอ้เรา ฤ ก็ซื่อบื้อ ไม่ทันสังเกต พอตกค่ำ ใกล้จะสองทุ่ม หนูดีคงไม่ไหวแล้ว มานอนเผละลงข้างๆ ตัว เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ที่ต้นขาหน้า ด้านขวาของหนูดี มีเหล็กปักอยู่ ตอนแรกตกใจ นึกว่ามันวิ่งไปชนเสาอากาศทีวี รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า โทรบอกหมอ ขอพาหนูดีไปพบหน่อย ก็กลัวคลีนิคจะปิดนี่นะ
หนูดีน่าสงสารมาก ตอนพาหนูดีไปหาหมอ ฉมวกบ้านั่นยังติดคาอยู่ที่ตัวของหนูดี เป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวมากๆ
หมอที่รพ.สัตว์ที่บ่อสร้าง ก็ใจดีมากๆ ดูแลหนูดีให้อย่างดี...หมอต้องฉีดยาสลบ เพื่อเอาฉมวกออกมา ฉมวกสภาพเก่า สนิมเขรอะ...คนยิงคือใครกันนะ ทำไมใจร้ายจัง...
หมอทำแผลให้หนูดีแป๊บเดียว แล้วก็ให้หนูดีมาฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบที่บ้าน คืนนี้ไม่ต้องนอนค้างที่รพ.
นั่งลุ้นสังเกตุอาการของหนูดี ตอนที่หนูดีเมายา แววตาแบบนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อน ท่าทางจะปวดมากๆและไม่เป็นตัวของตัวเองแน่เลย ขนาดเราที่เป็นเจ้าของจะเข้าไปใกล้ๆ มันก็ขู่ฟอดๆ
แต่อาการคงน่าจะดีขึ้น เพราะหนูดีสามารถขึ้นมานอนที่ห้องน้ำชั้นบนได้ ซนเหมือนเดิมแบบนี้ คงหายดีอีกไม่กี่วันนะจ๊ะหนูดี