วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

รูปสวยๆ ของครอบครัวสีทอง

ดูท่านอนของคุณพี่เขาเสียก่อน...อิอิ
รูปนี้ เจ้าตัวสีดำเหม่อมองอะไรน๊า...

รูปนี้ดวงตาของน้องมีความหมายนะจ๊ะ


รูปนี้ แม่ยืมหัวลูกเป็นหมอนหนุนหน่อย

รูปนี้ แม่ลูกน่ารักที่สุดเลย....

ลูกๆ สีทอง ลืมตาออกมาดูโลกยุ่งๆ ใบนี้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2553 ยังไม่มีชื่อเลย...

วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันนี้ไม่สบาย








วันนี้ไม่สบาย เจ็บคอ เสียงแหบ...

ถ้ามีบางคนโทรมา เสียงอาจใสขึ้น

ฝากรูปสบายๆ ในวันที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

อย่างก๊ายย


มีองค์กรรัฐบาลของชาติมหาอำนาจในเอเชียแห่งหนึ่ง เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณให้ประเทศไทย เจ้าหน้าที่ประสานงาน เป็นคนไทยแท้ๆ แต่พูดจามะนาวไม่มีน้ำเอาเสียเลย เขาทำราวกับว่า หน่วยงานของฉัน หรือฉันเอง เป็นขอทาน ไปขอเงินเขามาทำงานอย่างนั้นกระมัง...
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ควบคุมอารมณ์อย่างมาก ตอนที่ต้องคุยโทรศัพท์กับคนแบบนี้... เขาคิดว่าเขาเป็นใครนะ ตำแหน่งก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ทำไม เจรจาประสานงานกับคนอื่น ถึงวางอำนาจใหญ่โตขนาดนั้น หรือเพียงเพราะคิดว่า เขาทำงานในองค์กรของชาติยิ่งใหญ่ที่เอาเงินมาให้ประเทศกำลังพัฒนาแบบประเทศไทยหรือไงนะ น่าหงุดหงิดมากๆ จะต้องทนไปอีกนานเท่าไหร่กันนี่

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

"เรือ" กับ "ประภาคาร"


"เรือ" กับ "ประภาคาร" (รักเธอกอดคนอื่น) : Platonic Love
หนังสือ "จดหมายรัก" โดย ปราย พันแสง

..เมื่อรักใครคนหนึ่ง จึงไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้กอดกันหรือไม่
ความรักบางอย่างในชีวิตคนเราเอื้อมไม่ถึง สัมผัสไม่ได้
เหมาะสำหรับเอาไว้มองดู..ไว้ชื่นชมอยู่ไกลๆ


..ดวงไฟประภาคารสวยล้ำค่า
ยามที่เราล่องเรืออยู่ในทะเลลึกจนหาทางกลับไม่ได้
เราจ้องดูดวงไฟ เพียงให้รู้ว่าควรเดินหน้าไปทิศทางใด
แต่ใช่ว่าเราจะต้องเบนหัวเรือ เพื่อมุ่งไปจอดเทียบท่าหน้าประภาคารเสียเมื่อไหร่

..ได้รักเธอ...ประภาคารก็ดูสวยดี
คนที่ฉันกอดได้ ก็ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว..
อย่าสนใจเลยนะคนดีว่ารักเธอแล้วฉันคนนี้จะกอดใคร
แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป...เพียงพอแล้ว

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

หน้าที่ของอวัยวะที่ไม่เคยรู้มาก่อน


เรื่องขำๆ จาก forward mail

หน้าที่ของอวัยวะที่ไม่เคยรู้มาก่อน



หน้าผาก ............ อวัยวะที่ใช้ประกอบกับเท้าเวลามีทุกข์ เช่น...นอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก

ตา ..................... อวัยวะที่ใช้ในการมอง จะมีอุณหภูมิสูงมากเมื่อเห็นใครได้ดี

หู ....................... อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา จึงก่อให้เกิดเรื่องขึ้นบ่อยๆ

ปาก ................... อวัยวะที่ใช้พูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ

จมูก ................ อวัยวะที่ใช้หายใจ ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่น เรียกว่า แส่

ไหล่ ................... อวัยวะที่คู่กับบ่า เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ หรือมีไว้ให้คนเหงาคนเศร้าซบ

บ่า ..................... อวัยวะที่คู่กับไหล่ เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ ...หรือไว้สำหรับให้เพื่อนเหยียบเพื่อไต่เต้า ถ้าอาชีพจับกังมีไว้แบกข้าวสาร ........( ส่วนถนนข้าวสาร จับกังไม่เกี่ยว)

หัวใจ ................. อวัยวะสูบฉีดเลือดและฟอกเลือดให้กับร่างกาย มีไว้ให้แสดงความรักและเก็บรักไว้... แต่บังเอิญว่ามันมีถึง 4 ห้อง

หน้าอก .............. อวัยวะที่รองรับเรื่องหนัก อาทิเรื่องหนักอก... ผู้หญิงจะหนักกว่าผู้ชาย ( รึเปล่า!!!)

นม ..................... อวัยวะที่บ่งบอกภาระการรับน้ำหนักของอก ผู้หญิงมีไว้...!!! บริการนมให้บุตร บางทีเรียกว่าเต้า มีไว้ให้คนไต่

หรือบางทีก็ใช้เต้าสำหรับไต่

ศอก ................... ข้อต่อระหว่างแขนและข้อมือ มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้รองน้ำดื่มสำหรับผู้หญิงที่มาทีหลัง...

มือ ...................... เป็นอวัยวะปลายสุดของแขน มีนิ้วเป็นส่วนประกอบ มีไว้ตบเพื่อแสดงความยินดี หรือความโกรธก็ได้

ตัว ...................... เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกายให้อวัยวะอื่นได้พักพิง.....จะลืมกันมากเวลาได้ดี

สะดือ .................. เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ยามอยู่ในครรภ์ เมื่อโตขึ้นใช้วัดระดับความสุภาพ .........ถ้าต่ำกว่านี้ทะลึ่ง!!

ขาอ่อน ................ เป็นอวัยวะเชื่อมต่อจากสะโพกลงมา นิยมใช้ในการประกวด ...เพราะเห็นได้เด่นชัดกว่าสมอง!!!

หัวเข่า ................ ข้อต่อระหว่างขาและหน้าแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนผู้ชาย

และบางคนใช้ซับน้ำตาเวลาเศร้า ...นิยมมากสำหรับคนหลงรักชาวบ้าน

ขนหน้าแข้ง ......... อวัยวะที่วัดระดับของฐานะ ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย

เท้า > ...................... เป็นอวัยวะที่ใช้ยืน บางครั้งใช้ก่ายหน้าผาก ...หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก ... ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า ' ถีบ '


Platonic Love

เขียนจดหมายถึงผู้ชายที่รัก แล้วร้องไห้ไม่หยุด

ในจดหมายนั้น เล่าเรื่อง platonic love ให้ฟัง

ความรักของฉัน ก็คงเป็นแบบนั้น รักแบบไม่คาดหวัง รักแบบบริสุทธิ์ใจ
หวังแต่จะให้คนที่รัก ได้เจอแต่สิ่งดีๆ มีความสุข ไม่คิดจะไขว่คว้า แก่งแย่ง สร้างปัญหาและความเดือดร้อน หรือทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ

ค้นหาความหมายของคำว่า platonic love ได้พบเจอกับ website หนึ่ง (http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=flowerylife&date=30-11-2008&group=11&gblog=35) ได้นำข้อความหนึ่งเรื่อง

"เรือ" กับ "ประภาคาร" (รักเธอกอดคนอื่น) : Platonic Love หนังสือ "จดหมายรัก" โดย ปราย พันแสง..


เมื่อรักใครคนหนึ่ง จึงไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้กอดกันหรือไม่

ความรักบางอย่างในชีวิตคนเราเอื้อมไม่ถึง สัมผัสไม่ได้เหมาะสำหรับเอาไว้มองดู..ไว้ชื่นชมอยู่ไกลๆ..

ดวงไฟประภาคารสวยล้ำค่ายามที่เราล่องเรืออยู่ในทะเลลึกจนหาทางกลับไม่ได้

เราจ้องดูดวงไฟ เพียงให้รู้ว่าควรเดินหน้าไปทิศทางใด

แต่ใช่ว่าเราจะต้องเบนหัวเรือ เพื่อมุ่งไปจอดเทียบท่าหน้าประภาคารเสียเมื่อไหร่..

ได้รักเธอ...ประภาคารก็ดูสวยดี

คนที่ฉันกอดได้ ก็ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว..

อย่าสนใจเลยนะคนดีว่ารักเธอแล้วฉันคนนี้จะกอดใคร

แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป...เพียงพอแล้ว



ความรักของฉัน ก็เหมือนได้เฝ้ามองดูประภาคาร

ให้แสงไฟจากประภาคารได้นำทางให้ชีวิต หวังเพียงแค่นี้ ไม่ขอหวังอะไรมากเกิน


"รัก" หรือ "หลง" มันต่างกันยังไงมาดูกัน

"รัก" หรือ "หลง" มันต่างกันยังไงมาดูกัน

เรื่องดีๆ จาก http://www.budpage.com/forum/view.php?id=5768

ความรัก ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ความหลง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความรัก อดทนต่อกันและกันเสมอ

ความหลง กระทำไปตามอารมณ์

ความรัก ทำสิ่งดีๆให้กัน

ความหลง ทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง

ความรัก ไม่คิดถึงตัวเองฝ่ายเดียว

ความหลง คิดถึงแต่ตัวเอง เรียกร้องแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ

ความรัก ชื่นชมสิ่งดี ไม่ยอมรับสิ่งผิด

ความหลง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แก้ตัว

ความรัก ปกป้องกันและกัน

ความหลง ปกป้องตัวเอง ไม่แคร์ว่าใครจะเจ็บ

ความรัก ไว้ใจซึ่งกันและกัน

ความหลง หวาดระแวง จับผิด ขี้สงสัย

ความรัก ให้อภัย

ความหลง แค้นนี้ต้องชำระ

ความรัก ทนต่อทุกอย่าง

ความหลง ถอยหนียามลำบาก

ความรัก ให้โดยไม่มีการเลิกรา

ความหลง หยุดเมื่อไม่ได้รับการปรนเปรอ

ความรัก เป็นอมตะ คงทนถาวร

ความหลง ไม่มั่นคง อยู่ได้ไม่นาน

ความรัก ซื่อสัตย์ต่อกัน

ความหลง หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้

ความรัก ไม่ฉุนเฉียวง่าย

ความหลง ด่าว่าให้เจ็บช้ำ

ความรัก ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย

ความหลง ไม่ให้เกียรติ ฉันต้องสำคัญที่สุด เป็นรองไม่ได้

ความรัก มีความหวังอยู่เสมอ

ความหลง คุณพลาดแล้วหมดโอกาสแก้ตัว

ความรักจะช่วยส่งเสริมคนทั้งคู่ให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเช่น การเรียนดี ประพฤติดี

ความหลงไม่สนใจอะไร มุ่งแต่จะอยู่ด้วยกัน สุดท้ายก็ลงเอยเรื่อง sex

ความรักจะเตือนสติถ้าอีกฝ่ายทำสิ่งไม่สมควร และมีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม

ความหลงไม่มีการเตือนสติกัน แต่จะมองสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก เช่นแฟนกินเหล้า สูบบุหรี่ เสพยา หนีเรียนก็ไม่ว่าเพราะหลงจนไม่อยากขัดใจ

ความรักจะทำดีต่อกัน รักกันเสมอต้นเสมอปลาย

ความหลงแรก ๆ รักจนไม่ลืมหูลืมตา

ต่อมาอีกไม่นานก็เริ่มหน่ายตีตัวออกห่างไปหาคนอื่นต่อ

ถามตัวเองสิ...ว่าตอนนี้คนที่คุณคิดว่ารักเค้าน่ะ คุณรักเค้าจริงๆหรือว่าคุณกำลังหลงเค้าอยู่กันแน่ ?

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

จ้าวฮะ


วันนี้ได้รับ forward mail ถูกใจ ขำๆ
หัวเรื่อง: จ้าวฮะถึง:

จ้าวฮะ ตอนนี้ จ้าวอยู่ที่ไหนฮะ

จ้าวฮะ เมื่อคืนผมฟังจ้าวโฟนอินให้พวกเราสู้ต่อ เพื่อจ้าว เพื่อครอบครัวจ้าว ผมรักจ้าวฮะ ผมจะสู้ต่อฮะ

จ้าวบอกว่ารักพวกเราทุกๆ คน ผมซึ้งมากน้ำตาไหลเลยฮะ

สงสารจ้าวจังฮะพวกเราทุกคนรักจ้าวฮะ จะสู้เพื่อจ้าวฮะ

ไม่ว่าจ้าวจะบินอยู่จุดไหนๆ ของโลก

จ้าวฮะ ตอนนี้จ้าวอยู่ที่ไหนฮะ พวกเรา นอนกลางถนน กินตำส้ม ขี้เยี่ยวลำบากมากฮะ

น้ำก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่ได้แปรง ไปไหนมาไหน ก็ไม่ได้ แต่พวกเราก็ทนเพื่อจ้าวฮะ

จ้าวฮะ จ้าว เอาลูก เอาเมีย หนีไปอยู่ต่างประเทศนะดีแล้วฮะ

เพื่อความปลอดภัยของคุณหนูๆ พวกผมมันลูกชาวไร่ ชาวนา

ขนลูก ขนเมียมาสู้เพื่อจ้าว ไม่เป็นหรอกฮะ

จ้าวฮะ แกนนำ สามเกลอปราศรัยมันมากฮะ แต่ไม่รู้ว่าจะพาพวกเราไปไหน ทำอะไรเพื่อใคร

ทั้งอ้ายตู่ อ้ายเต้น อ้ายตัวอ้วนๆ พีๆ แต่ละตัว ใส่สร้อยเพชร สร้อยทอง เส้นใหย๋ๆ โตๆ รวยอู้ฟู่ กันทุกเลยฮะเจ้า

จ้าวฮะ ผมกลัวใอ้สามเกลอมันจะหลอกแดกจ้าวนะฮะ

ยิ่งนานวันเห็นพวกมันยิ่งรวยขึ้นๆ แต่จ้าวของผม เห็นจนลงจนลง ทุกวัน

เห็นจ้าวหน้าหมอง หน้าซีดเหมือนคนติดฝิ่น ผมยิ่งสงสารจ้าวฮะจ้าว ฮะ

ผมมาจากสันกำแพง เมืองเจียงใหม่ บ้านเดียวกับจ้าวฮะ

อ้ายเพ็ดวัด มันพาพวกผมมาฮะ มันว่ามาก่อนเอาไปห้าร้อย กินอยู่ฟรีรับอีกวันละห้าร้อย ฮะจ้าว

แต่จ้าวฮะ เพื่อนที่ผมรู้จักที่เขามาจากอุดรที่อ้ายขวัญไช มันพามา เขาบอกว่า

จ้าวให้พวกมันทั้งคนละสองพันแนะ ผมได้ห้าร้อยเองฮะจ้าว ไม่รู้ว่าพวกอ้ายเพ็ด มันอม อะป่าว ฮะจ้าว

ผมละงง จิงจิงฮะจ้าวฮะ บอกใอ้สามเกลอด้วยว่า ทีหลังตอนจ่ายตัง อย่าเล่นสองมาตรฐานนะฮะ

เดี่ยวใครก็นินทาจ้าวได้ว่า สองมาตรฐานเหมือนใอ้พวกนั้นนะจ้าวฮะ

พวกเรายึดมันสันติวิธีฮะ ไม่ไปตีนาย ไม่ทำร้ายใคร ถ้าใครให้ไปตีใคร ผมไม่ไปนะจ้าว

ถามจิงจิง ฮะ ทันทีที่เสียงปืนดัง จ้าวจะมานำม็อบเหมือนเดิมหรือเปล่าฮะจ้าวฮะ

ถ้ายึดสันติวิธีต้องบอกอ้ายกี้ ให้มันหยุดปลุกชาวบ้านให้ระดมน้ำมันมาเผากรุงเทพฯ

แล้ว บอกอ้ายพันลบ อ้ายจิ๋ว สองเฒ่าชะแรแก่ชราแล้วไปเลี้ยงหลานเถิดฮะจ้าว

ต้องบอกอ้ายแดงไม่ให้ฝึกทหารดำ ฝึกวางระเบิด ฝึกอะหยั่งๆ ก็บ่ฮุ้ ฮะจ้าวจ้าวฮะ

ที่จ้าวบอกว่าให้พวกเราล้มพวกอำมง อำมาตย์ อารายเนี่ย ผมไม่รู้จักดอกครับ

รู้จักแต่ท่านปุโรหิต ท่านโหราจารย์ในหนังจักรๆ วงศ์ ตอนเช้าในวันเสาร์ อาทิตย์ ตามช่อง 7

จะให้พวกไปล้มมันไหมฮะ เดี่ยวผมจัดให้ฮะ รับรองได้ผลฮะจ้าวฮะ เขียนมาซะยาว

ตอนนี้สะตังค์ ผมจะหมดแล้วฮะ โดนหักหัวคิวไปหลายบาท หมดตังแล้ว ผมจะปิ๊คเลยนะจ้าว

รอจ้าวจ่ายรอบใหม่ผมกับพวกจะมา

แห่มรอบฮะขอให้จ้าวรักษาตนให้อยู่รอดพ้นจาก พวกปอกลอกนะฮะ

ทัดดาวแท้ หาทองทา

รักจ้าวฮะ

อย่าปรุงแต่งจิต


คัดมาส่วนหนึ่งจาก http://www.nkgen.com/518.htm
มีบทความ เรื่อง "อย่าส่งจิตออกนอกไปเสวยอารมณ์"
เป็นคําสอนและคติธรรมของหลวงปู่ที่กล่าวกันอยู่เนืองๆ และเป็นแก่นหลักสําคัญในการปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์
แต่ควรมีความเข้าใจทึ่ถูกต้องจึงจักสําเร็จผลสมดั่งคําสอนของหลวงปู่, อันท่านหมายถึง
ไม่ส่งจิตออกนอกไปเสวยอารมณ์(หมายถึง เกิดเวทนา)
หรือก็คือไม่ส่งจิตออกนอกไปคิดนึกปรุงแต่ง
เพราะทุกๆความคิดนึกปรุงแต่งอันคือความคิดที่ฟุ่มเฟือยเกินจําเป็น,
อันเป็นขันธ์ ๕ อย่างหนึ่ง ซึ่งย่อมต้องเกิดเวทนาหรือการเสวยอารมณ์ร่วมด้วยทุกๆ ความคิดที่ปรุงแต่ง
อันล้วนอาจเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา อันเป็นไปตามหลักธรรมปฏิจจสมุปบาท,
จึงทําให้เกิดเป็นทุกข์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจากความคิดนึกปรุงแต่งหรือฟุ้งซ่านนั้นๆ,
จิตไม่ส่งออกนอกในความหมายของท่านจึงหมายถึง
ไม่ส่งจิตออกนอกเพื่อไม่ไปกระทบในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมมารมณ์หรือความคิด
อันล้วนแต่ให้เกิดคิดนึกปรุงแต่ง หรือก็คือหยุดคิดนึกปรุงแต่ง

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

สีทองคลอดน้อง


สีทอง แมวสมาชิกใหม่ของบ้าน วันนี้สีทองให้กำเนิดลูกออกมาสองตัว น้องมีสีดำและสีออกขาว ขอให้น้องสุขภาพดี แข็งแรง โตไวๆ นะจ๊ะ

แม่สีทองว่าง่าย..บอกให้ขึ้นไปชั้นบน สีทองก็เดินขึ้นบันไดไปต้อยๆ

สีทองน่าจะรู้ภาษานะ สีทองอ้อนเป็น แล้วแบบนี้ จะไม่ให้รักสีทองได้อย่างไร

เสียอย่างเดียว สีทองชอบร่วมมือกับหนูดีมารุมเสือน้อย

น่าสงสารเสือน้อยนะ ทำไมไม่อยู่ด้วยกันดีๆ ล่ะ

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

อยู่เพื่อใคร...คำถามที่ต้องหาคำตอบ


คุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นคุณพ่อลูกสาม เพื่อนถามว่า

ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อคนหลายคน แล้วชีวิตเอ็งล่ะ อยู่เพื่อใคร

เจอประโยคนี้แล้ว โดนเลย...โดนต่อม... อึ้งกิมกี่..ตอบมันไม่ได้

อุตส่าห์ว่าจะทำใจได้อยู่แล้วเชียว มาพูดกระตุ้นต่อม

..เฮ้อ..บางทีคนเราก็เจ็บปวดเพราะคำพูดที่ไม่ตั้งใจได้เหมือนกัน

..Y__Y คนพูดใจร้ายจัง แล้วเราจะอยู่เพื่อใครดีล่ะ...

วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2553

Love like you've never been hurt


Dance like no one is watching

Sing like no one is listening

Love like you've never been hurt and

Live like it's heaven on earth.

วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

My favourite time


My easy peaceful feeling ต้องพูดแบบนี้มากกว่า

เวลาช่วงนี้ มักจะเป็นช่วงเช้าของวันหยุด แบบว่า ได้นอนเต็มอิ่ม จากคืนวันศุกร์ที่เหนื่อยล้ากับงานมาตลอดทั้ง 5 วัน

ตื่นสายๆ สักแปดโมง กำลังดี ใกล้จะเป็นคุณนายละ คุณนายตื่นสายไง อิอิ

และต้องอยู่ในช่วง mood ที่สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เศร้าเสียใจ กับความรักที่ไม่สมประกอบนี่ด้วยนะ

แต่ถึงฉันจะเรียกมันว่า ความรักที่ไม่สมประกอบ แต่ฉันก็ยินดี ภูมิใจ กับความรักที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แหละน่า..

เป็นความรักที่ ตัวฉันเอง เตรียมพร้อม ยอมรับ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะสิ่งนั้น ฉันเลือกเอง ในที่สุด

ถึงจะไม่สมประกอบเท่าไหร่ แต่ฉันก็รักเขาอยู่ดี ไม่ใช่หรือ

หรือนี่ คือความหมายของความรักจริงๆ ที่ฉันกำลังค้นหาอยู่นะ

แต่ช่างเถอะ อย่าออกนอกเรื่อง

มาพูดกันถึง ช่วงเวลาดีๆ ในวันที่ตืนสาย ต่อดีกว่า

ตื่นสายๆ ลุกไปชงกาแฟดำ (กาแฟเพียวๆ ช้อนกว่าๆ และน้ำร้อน) แล้วกลับมานอนอ่านหนังสือ

มีแสงแดดอ่อนๆ สาดเข้ามาจากหน้าต่าง กระทบลงบนเตียงที่ฉันกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่

อาจจะเป็นหนังสือมติชนสุดสัปดาห์ อ่านเรื่องวิเคราะห์การเมือง หรือหนังสืออะไรก็ได้ ที่ทำให้จิตใจสงบขึ้น

และในบางครั้ง ก็มีเพื่อนแมว น้องแมวผู้ภักดี มานั่งเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้าง

มันทำให้เช้าวันนั้นของฉันเป็นเช้าที่สงบนิ่ง หลุดพ้นจากความสับสน วุ่นวายในชีวิตประจำวัน

ขอบเวลาแบบนี้ที่สุดเลย


แค่ได้เห็นหน้า


แค่ได้เห็นหน้า

ก็เปลี่ยนโลกทั้งใบ

นี่แหละหนา ที่เขาเรียกว่า ความรัก

แค่ได้เห็นหน้าคนที่รัก หัวใจก็พองโต

เหมือนรถได้เติมน้ำมัน วิ่งไปได้อีกหลายกิโล

อยากจะบอกเขาว่า ขอให้อดทน

ถึงงานจะหนัก แต่ก็เป็นงานที่มีเกียรติ ใช่ว่าทุกคนจะทำงานแบบนี้ได้

จงภูมิใจเถิดนะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้พระเอกของฉันคนนี้เอง

ได้ทำหน้าที่เพื่อชาติไทยของเรา สู้ต่อไป ฮีโร่ของน้อง

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

ความห่วงใยก็เหมือนดวงดาว







ความห่วงใยก็เหมือนดวงดาว
มองเห็นเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยไปไหน

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

สัจธรรมของความรัก


ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

เป็นสัจธรรมของความรักที่ถูกต้องที่สุด แต่คนเราก็ห้ามไม่ให้มีความรักไม่ได้

ความรัก มีทั้งสุขและทุกข์ปะปะกันไป บางวันก็สุข บางวันก็ทุกข์

ก็สอดคล้องกับอนิจจังของชีวิตที่มีทั้งทุกข์และสุข ผสมคละเคล้ากันในบางวัน

หากจะรัก แล้วไม่ทุกข์ วิธีเลี่ยงได้ก็คือ อย่าคาดหวัง อย่าคิดครอบครอง แล้วจะไม่ทุกข์

ถ้าคิดได้แบบนี้ คงจะช่วยบรรเทาอาการที่ว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" ได้เปลาะหนึ่ง


วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

ความรักสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้รักหรือผู้ถูกรักก็ตาม


เจอประโยคเท่ห์จากเว๊บบอร์ดของนิ้วกลม (http://www.roundfinger.com/)

"ความรักสวยงามเสมอค่ะไม่ว่าจะเป็นผู้รักหรือผู้ถูกรักก็ตาม"

วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปลดทุกข์

บางวัน ชีวิตเราก็มีเรื่องขำๆ แปลกๆ
เช่นวันนี้ ตื่นเช้าเตรียมตัวมาทำงานอย่างสดใส
ออกจากบ้านเร็วกว่าปกติด้วยล่ะ ไม่ตาลีตาเหลือกเหมือนกับทุกวัน
ขับรถมาสบายๆ ไม่เร่งรีบ แต่ที่ไหนได้ ยังไม่ถึงครึ่งทาง ดันปวดท้องเข้าห้องน้ำซะงั้น
คือแบบว่า อั้นไว้ก็ไม่ไหวมั้ง ต้องปลดปล่อยภาระอันหนักอึ้งนี้ที่ไหนสักที่
พลางนึกตำหนิตัวเอง ทีตอนอยู่บ้าน ทำไมไม่เข้าให้เรียบร้อยนะ
อ้อ นึกออกแล้ว ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด คือห้องน้ำที่ตลาดประจำตำบล
ขณะรถติดไฟแดง ขนลุกแล้วลุกอีก พยายามรวบรวมสมาธิพร้อมกับค้นหาเงินเหรียญ
เพราะต้องจ่ายค่าเข้าไปใช้ห้องน้ำเขา ควานหาเงินเหรียญในกระเป๋า หายากหาเย็น
ยิ่งรอช้าไม่ได้อยู่ ขนก็ลุกแล้วลุกอีก ขอย้ำ...
โชคดี เจอเงินเหรียญจนได้ ดีใจจนสุดบรรยาย
ณ เวลานั้น เงินเหรียญบาทน้อยๆ ไม่กี่เหรียญในกระเป๋าของฉันมีค่ายิ่งกว่าเหรียญทอง
พอจะเข้าห้องน้ำ เจอคุณป้า หน้าเหมือนผู้คุม นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ
คอยเป็นคุณครูบอกให้ลูกค้าทุกคนต้องถอดรองเท้าและสวมรองเท้าแตะของห้องน้ำนี้เท่านั้น
นั่นแน่ มีการบริหารจัดการที่ดีเสียด้วย
จ่ายค่าปลดทุกข์ไปสองบาท โชคดีที่ห้องน้ำของคุณป้าสะอาด
หลังเดินออกมา ซาบซึ้งถึงคำว่าปลดทุกข์ได้จริงๆ
อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง ใครหนอ ช่างคิดคำนี้เหลือเกิน
นึกว่าวันนี้ จะได้มาทำงานแต่เช้าแล้วเชียว
กระหืดกระหอบ ซิ่งทะลุมิติมาทำงาน
สแกนลายนิ้วมือ 8.30 น. เป๊ง ไม่ขาดไม่เกิน
อ่านเสร็จ ได้กลิ่นอะไรโชยมาบ้างไหม

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

ความรักของฉัน


การที่จะรักใครคนหนึ่ง

ไม่ควรให้เขาต้องทุกข์ใจเพราะเรา

ไม่ควรสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก

การได้เฝ้ามองและรับรู้ว่าเขามีความสุขกายสบายใจ ก็เพียงพอแล้ว

ความรักของฉัน ณ ตอนนี้

ฉันควรจะอยู่ในที่ๆ ควรอยู่

ทำในสิ่งที่ควรทำ

และรักคนที่ควรรัก

ซึ่งฉันได้เลือกแล้ว

แม้จะทำให้ฉันทุกข์อยู่บ้าง

แต่ฉันก็เต็มใจยอมรับความทุกข์นั้น

นั่นเพราะฉันตัดสินใจเลือกเอง


สิ่งทั้งปวง ล้วนแต่ลวง ให้ยึดมั่น (พุทธทาสภิกขุ)


ได้ธรรมะเตือนใจจากเฟซบุ๊คของท่าน ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)


สิ่งทั้งปวง ล้วนแต่ลวง ให้ยึดมั่น (พุทธทาสภิกขุ)

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

ความหวัง


เวลาทุกข์

ย่อมจะต้องมีความหวังว่า พรุ่งนี้จะต้องดีกว่า

พรุ่งนี้ จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ต้องคิดแบบนี้เสมอ

ก็แค่คิดว่า พรุ่งนี้จะต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น


ได้คืบจะเอาศอก


เมื่อไหร่ ช่วงเวลาแห่งความทุกข์นี้จะหายไปเสียทีนะ

สมน้ำหน้า โทษตัวเองเถอะ

ได้คืบจะเอาศอก

จะโทษใครได้ล่ะ

มีความสุขอยู่ดีๆ แท้ๆ กลับทำลายความสุขนั้นด้วยมือของตัวเอง
น่าภูมิใจมากๆ

ก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองไป