วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2550

กลัวหมอฟัน




วันนี้ มีเรื่องขำๆ มาเล่าสู่กันฟัง คืออาจขำสำหรับคนอ่าน แต่คงไม่ขำสำหรับคนเขียน ฉันว่า ดวงของฉันคงไม่ค่อยสมพงศ์กับหมอฟันแน่ๆ เพราะมีประสบการณ์แปลกๆ ขำๆ ปนสยองเล็กน้อย เกิดขึ้นอยู่เสมอ เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่ง ที่คลีนิคแถวบ้าน ฉันต้องถูกถอนฟัน แต่หมอใจดี ถอนแถมให้อีกหนึ่งซี่ แถมฟันซี่นั้นยังสุขภาพแข็งแรงดีอยู่เลย แต่หมอก็บอกเหตุผลว่า ก็รากฟันมันเกี่ยวกันอยู่ ดังนั้น เธอไปไหน ฉันไปด้วย โอ้เหงือกจ๋า ฟัน(ส์)ลาก่อน (ตั้ง 2 ซี่แน่ะ) คราวนั้น เนื่องจากฟันหนีฉันไปถึงสองซี่ ฉันจึงได้รับอภินันทนาการจากคุณหมอเย็บเหงือกให้ด้วย โอ้ ลองนึกภาพตามกันไปนะพี่น้อง

แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ฉันมีอันต้องไปหาหมอฟัน คู่รักคู่แค้นของฉันอีกครั้ง คราวนี้ฉันเลือกใช้บริการของคลีนิคพิเศษของส่วนราชการแห่งหนึ่ง ซึ่งฉันจะเบิกได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น แล้วเสียงที่ไม่อยากได้ยินจากคุณหมอ ก็ดังขึ้นมาว่า คราวนี้ ต้องถอนฟันแล้วล่ะ ฉันอึ้งไปสักพัก ยอมรับชะตากรรม เพราะไหนๆ ฉันก็นอนอยู่บนเขียง เอ๊ย เตียงของหมอฟันแล้วนี่นา
หมอเริ่มฉีดยาชาตามขั้นตอน แค่ตอนที่หมอฉีดยาชาเข้าที่เหงือกของฉัน น้ำตาก็แทบเล็ด หมอนั่งรอสักพัก แอบเอานิ้วมาเขี่ยแก้มฉัน ชายังๆๆ รู้สึกป่าวๆๆ ฉันก็บอกว่า ยังค่ะๆยังไม่ชา แล้วหมอก็เขี่ยอีก ถามอีกว่า ชายังๆๆ รู้สึกป่าวๆๆ ฉันก็บอกว่า ยังค่ะๆยังไม่ชา(เฟ้ย)หรือฉันความรู้สึกช้า ทันใดนั้น หมอไม่รอแล้ว หมอไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มลงมือปฏิบัติการถอนฟันฉันทันที โอ้เพราะเจ้า ในตอนนั้น อยากส่งกระแสจิตถึงหมอจังว่า หมอจ๋า ยาชายังไม่ออกฤทธิ์เลยนะเจ้าคะคุณหมอ

ชีวิตการทำฟันของฉันช่างรันทดอะไรเช่นนี้ ตอนไปคิดเงินกับแคชเชียร์ (แถมยังเป็นสาวมั่น ไปคนเดียวโดยไม่มีใครไปเป็นเพื่อนอีก แทบเอาชีวิตไม่รอดเลยวันนั้น) ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของฉันเริ่มใหญ่ๆ ขึ้น ใหญ่ขึ้น พอขับรถกลับบ้าน ฉันเริ่มรู้สึกว่า หน้าฉันหายไปไหน ฉันพูดแทบไม่เป็นภาษา โอ้พระเจ้า ยาชาเพิ่งมาออกฤทธิ์ตอนฉันขับรถกลับบ้านเนี่ยนะ ทำไมสวรรค์โหดร้ายกับฉันจริงๆ




ที่มานั่งบ่นนี่ก็ไม่ใช่อะไร คือแบบว่า จะต้องไปหาหมอฟันอีกแล้วล่ะ ทั้งไปขูดหินปูนและอาจะได้ถอนอีก แต่ฉันยังทำใจไม่ได้ ขอบ่นถึงหมอฟันให้หนำใจก่อน ถ้าทำใจได้ ค่อยว่ากันอีกทีนะ

ไม่มีความคิดเห็น: