วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อยู่ไปเพื่ออะไร

ก่อนหน้านี้ เคยมีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเองว่า "จะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร เพื่อใคร" พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว จะมีชีวิตอยู่ ต่อไป ทำไมอีก

ชีวิตที่เหลืออยู่ ยังโชคดีที่ได้พบกับความรักที่คิดว่า เป็นรักจริงเข้าแล้ว ชีวิตนี้ ตั้งแต่โตขึ้นมาจนแก่ปูนนี้ ไม่เคยรู้สึกรักใครมากเท่ากับผู้ชายคนนี้มาก่อน นึกอยากดูแลเขาไปจนแก่จนเฒ่า อะไรทำให้คิดแบบนั้นก็ไม่รู้ แถมยังรักคนที่รักไม่ได้อีก แต่ใจมันก็ดื้อจะรัก ดังนั้น ก็ต้องรับผลที่จะตามมา คือเศร้าซะเอง ชาติหน้า ค่อยว่ากัน...ชาตินี้ บุญคงน้อยไป แต่แค่ได้เจอเขา ได้รักเขา ก็นับว่ายังพอมีบุญอยู่บ้าง ชีวิตนี้ก็ยังไม่เลวร้ายกับฉันมากเกินไปนัก

แค่สุขใจ ที่ได้รัก ที่ได้มอบความรัก ให้กับผู้ชายคนนั้น ชีวิตก็เพียงพอแล้ว ฉันไม่เคยเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ ก็ได้รักแล้วนี่นะ จะหวังอะไรอีก
ขอบคุณผู้ชายคนนั้น ที่ยอมให้ฉันรักเขาได้มาจนถึงทุกวันนี้



ทีนี้ ชีวิตก็สมบูรณ์แบบแล้ว พร้อมจะจากไปได้ทุกเมื่อ บางวันที่ท้อ ก็ร้องไห้ เรียกหาพ่อแม่ให้มารับไปเสียที ไม่อยากอยู่แล้ว โลกหม่นๆ ใบนี้

อยู่ไป ก็เป็นคนแปลกหน้า เป็นส่วนเกินของชีวิตคนอื่น.....


ส่วนสมาคมชาวแมวของฉัน หากฉันจากไป ก็ถือว่าเป็นกรรมของพวกเขา ที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพกันเอง บุญกรรมเราสิ้นสุดกันแค่นี้ ถ้ามีโอกาส คงได้เจอกันอีกในภพหน้า...

เรื่องงาน ความก้าวหน้าคงหยุดอยู่แค่นี้ เพราะฉันไม่ใช่ประเภท ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย ... เลือกแล้วนี่นะ หากทำงาน ขอเลือกความสบายใจ มากกว่า ยศตำแหน่ง หรือเงินทอง...ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด นั่นก็เพียงพอแล้ว...

แล้ววันหนึ่ง ก็ค้นพบจากธรรมะว่า การมีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยากหนักหนา
ควรจะภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคน มีโอกาสได้ทำความดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้คนอื่น
ถ้าเช่นนั้น ก็อยู่ไปก่อน เพราะลมหายใจยังไม่หมดสิ้น แต่วันไหน ไม่มีลมหายใจแล้ว ถ้าวันหนึ่งฉันจากโลกนี้ไป จะมีใครคิดถึงฉันไหมหนอ

ไม่มีความคิดเห็น: