วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

แต้ม








ก่อนสิ้นปี แต้มหายออกไปจากบ้านสองวัน พอแต้มกลับมา แต้มมีอาการอ่อนล้า เห็นได้ชัดว่าแต้มไม่สบาย แต่คราวนี้ แต้มต่างจากหนูดี ที่เมื่อคราวก่อน หนูดีดูไม่เป็นหนักเท่าแต้ม แต้มนอนคอตกอยู่บนชั้นวางรองเท้าที่บ้าน
ฉันตัดสินใจพาแต้มไปพบคุณหมอ หมอบอกว่าแต้มมีไข้ ฉีดยาลดไข้ให้แต้ม จากนั้น ฉันพาแต้มกลับบ้าน วันถัดมา แต้มมีอาการตาเหลืองมากๆ ฉันตัดสินใจพาแต้มไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ หมอบอกว่า แต้มอาจเป็นโรคตับ หมอให้ยาบำรุงตับให้แต้ม และบอกให้ฉันกกไฟให้แต้ม เพราะแต้มตัวเย็นมากๆ และให้ป้อนน้ำหวานให้แต้ม เพื่อบำรุงตับ
ฉันเริ่มใจไม่ดี แต้มเป็นเยอะมากกว่าที่คิดไว้ ฉันฉลองวันขึ้นปีใหม่กับญาติๆ ที่บ้าน พร้อมๆ กับคอยดูแต้มที่ต้องนอนอยู่ในตะกร้าพร้อมหลอดไฟเพื่อทำตัวแต้มให้อุ่น หลังปีใหม่ ฉันก็ได้ข่าวดี อุณหภูมิร่างกายของแต้มเป็นปกติอีกครั้ง เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง
อย่างไรก็ดี เรื่องของแต้มยังไม่จบแค่นี้ แต้มยังไม่ยอมทานข้าว แต่แต้มก็ทานน้ำเก่ง ลุกมาทานน้ำเอง และบางครั้ง แต้มก็นอนหลับ เอาคางเกยขันน้ำของแต้มนั่นเอง
หลังจากนั้น แต้มเริ่มลงมาข้างล่าง มานอกบ้าน รอรับฉันเวลากลับบ้าน ฉันใจชื้น แต้มต้องดีขึ้นแล้วแน่ๆ ไม่นานแต้มจะหายเหมือนเดิม
แต่หลังจากนั้นไม่นาน แต้มกลับมีอาการแย่ลงไปอีก แต้มเริ่มไม่ทานน้ำเอง หายใจหอบขึ้น แต้มหายไปอีกครึ่งวันกับหนึ่งคืน ฉันใจหาย เริ่มทำใจ ว่าแต้มอาจจะอยากจากไปโดยทิ้งภาพที่สวยงามไว้ข้างหลัง อย่างไรก็ดี ฉันยังมีความหวังว่า แต้มอาจจะกลับมาที่บ้านอีก แต้มต้องไม่เป็นอะไร
แต่วันถัดมา แต้มมาหมอบนั่งอยู่ข้างบ้านอีกครั้ง ฉันทิ้งทุกอย่างในมือ วิ่งไปหาแต้ม คราวนี้แต้มหอบหนักกว่าเดิม เมื่อป้อนน้ำ แต้มกลับไม่อยากทานน้ำ แต้มอาเจียนเอาน้ำออกมาหมด ฉันใจไม่ดี รีบพาแต้มไปหาหมออีกครั้ง
คราวนี้ แต้มต้องถูกให้น้ำเกลือ และอยู่ในตู้ออกซิเจน ฉันใจแป้ว ทำใจว่า นี่คือสิ่งที่ฉันจะทำได้ดีที่สุดเพื่อแต้ม คราวนี้ ถึงคราวที่แต้ม ต้องสู้แล้วล่ะ แต่ถ้าแต้มสู้ไม่ไหว พี่ก็ไม่ยื้อแต้มไว้นะ

ไม่มีความคิดเห็น: